5 ขั้นตอนเด็ด!! ล้างรถเคลือบแก้วด้วยตัวเองยังไงให้ใสกิ๊ก !

5 ขั้นตอนเด็ด!! ล้างรถเคลือบแก้วด้วยตัวเองยังไงให้ใสกิ๊ก !

เหตุผลที่คุณยังต้องล้างรถที่ผ่านการเคลือบแก้วมาแล้ว นั่นเป็นเพราะว่า ในทุกวันๆ รถของคุณต้องเผชิญกับฝุ่นผง มลพิษและสิ่งสกปรกต่างๆ นานาบนท้องถนนและการจอดกลางแจ้งอยู่ตลอดเวลา ร้านเคลือบแก้ว ซึ่งคราบเหล่านี้เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ของคนที่ล้างรถด้วยตัวเองว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย ที่เราจะสามารถทำความสะอาด ร้านเคลือบแก้ว ซึ่งก็ยังต้องใช้แชมพูล้างรถ หรือสารทำความสะอาดเฉพาะอีกมากมาย เพื่อล้างเอาคราบต่างๆ เหล่านั้นออกไป อย่างไรก็ตาม คุณก็ยังต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจวิธีในการทำความสะอาดรถที่ผ่านการเคลือบแก้วมาแล้ว อย่างถูกต้องด้วย เพื่อให้ได้รถที่สะอาดและไม่เกิดปัญหาตามมา รวมทั้งยังช่วยให้การทำความสะอาดรถเคลือบแก้วด้วยตัวเอง เป็นเรื่องที่ง่ายและเสร็จเร็วขึ้นอีกด้วย

5 ขั้นตอนการล้างรถเคลือบแก้วด้วยตัวเอง

1.ขั้นตอนการฉีดน้ำเพื่อล้างสิ่งสกปรกในขั้นแรก รถที่ผ่านการทำเคลือบแก้วมา จะได้เปรียบรถทั่วไปค่อนข้างมาก ในคุณสมบัติด้านความลื่น ที่ทำให้สิ่งสกปรกไม่สามารถเกาะติดผิวรถแน่นๆ ได้ พอโดนน้ำฉีดก็แทบจะหลุดออกหมด แม้กระทั่งคราบยางมะตอย ซึ่งต่างจากกรณีรถที่ไม่ได้ผ่านการเคลือบแก้วมา คุณอาจจะต้องฉีดน้ำแรงมากๆ และอาจจะต้องทำหลายๆ ครั้ง เพื่อให้สิ่งสกปรกเหล่านั้นละลายแล้วหลุดออกมา

2.ควรแบ่งโซนการล้างออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนด้านบน และส่วนด้านล่าง เป็นการแบ่งโซนตามปริมาณของสิ่งสกปรกนั่นเอง ซึ่งสองส่วนนี้ มีโอกาสที่จะมีฝุ่นผงที่มีความหนา หรือสกปรกมาก น้อย ต่างกันนั่นเอง ทั้งนี้จะต้องมีการแยกผ้าที่ใช้ล้างคนละผืน โดยส่วนด้านบนก็คือ ส่วนที่เป็นหลังคา ฝากระโปรงหน้า ฝากระโปรงท้าย และกระจกรถทุกด้าน ส่วนด้านล่าง ที่มักจะมีคราบหนักๆ มีฝุ่นทรายขนาดใหญ่ โคลนเกาะติดมา ซึ่งก็ได้แก่ ส่วนที่ต่ำลงมาทั้งหมด การแบ่งลำดับหรือแบ่งโซนในการล้างนั้น จะเป็นการลดปัญหารอยขีดข่วนที่จะเกิดขึ้นกับผิวของรถให้น้อยลง ถึงแม้จะผ่านการเคลือบแก้วมาแล้วก็ต้องระวัง เพราะความแข็งของทรายนั้น มีระดับพอๆ กับความแข็งของฟิล์มที่เกิดจากการเคลือบแก้ว ด้วยเช่นกัน

3.ขั้นตอนการล้างโดยใช้แชมพูล้าง ถึงแม้ว่าจะเคลือบแก้วมาแล้วสำหรับตัวรถ แต่สำหรับส่วนอื่นๆ ที่ไม่ได้เคลือบแก้วเพื่อปกป้อง ก็เป็นการช่วยในการชะล้างคราบสกปรกออกไปได้ดีขึ้น

4.การเช็ดรถ ให้เช็ดจากส่วนบนไล่ลงมาส่วนล่าง และต้องเช็ดให้แห้งสนิท ควรใช้ผ้าชามัวร์หรือผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ด ซึ่งอาจจะใช้ผ้าหลายผืน ในการเช็ดทำความสะอาด เพื่อช่วยให้รถของเราสะอาดและแห้งสนิท

5.การล้างรถกลางแดดจัดหรือในช่วงที่อากาศร้อนมาก ทำให้เกิดรอยคราบน้ำบนผิวรถ หรือเรียกว่าสนิมน้ำ ถึงแม้ว่ารถของคุณจะเคลือบแก้วมาแล้วก็ตาม ถ้าหากว่าต้องเช็ดรถในสภาพที่มีแดดร้อนมาก มันจะทำให้คุณต้องเร่งมือมากเกินไปในการเช็ด ซึ่งก็อาจจะทำให้เช็ดได้ไม่ละเอียดพอ ดังนั้นควรทำในบริเวณที่มีร่มเงาจะดีกว่า

นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการล้างรถในช่วงค่ำ ถึงแม้ว่าจะเป็นรถที่ผ่านการเคลือบแก้วแล้วก็ตาม เนื่องจากจะเกิดความชื้นสะสม ทำให้ชิ้นส่วนรถบางจุดเกิดสนิมได้ แม้บางส่วนที่โดนน้ำยาเคลือบแก้วจะไม่เกิดสนิม เพราะมีชั้นฟิล์มปกป้องอยู่ แต่ในส่วนอื่นๆ ที่ไม่ได้รับการปกป้องก็มีความเสี่ยงในการเกิดสนิมได้เช่นกัน แต่หากว่าจำเป็น อาจจะต้องมีเป่าลมแรงสูง หรือหลังจากเช็ดเสร็จแล้ว ก็ต้องเอารถออกไปขับเพื่อไล่ความชื้น